Education System
อันดับ 1 ผล PISA score ทั่วโลก
ความรู้พื้นฐานระดับมัธยม วิชาการอ่าน คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์
QS World University Rankings 2024
Bachelor Degree Program
เรียนต่อปริญญาตรีสิงคโปร์ 2 ปีจบ
Table of Contents
Education System / เรียนต่อสิงคโปร์
ระดับประถมศึกษา (Primary School)
ในสิงคโปร์จะต้องใช้เวลาเรียน 6 ปี ในระดับประถมศึกษา ประกอบด้วย การเรียนชั้นประถมต้น (Foundation Stage) 4 ปี ตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-4 และชั้นประถมปลาย (Orientation Stage) อีก 2 ปี ในชั้นประถมศึกษาปีที่ 5-6 ในหลักสูตรขั้นพื้นฐานวิชาหลักที่ได้เรียน คือ วิชาภาษาอังกฤษ ภาษาท้องถิ่น (Mother Tongue) คณิตศาสตร์และวิชาเสริม อันได้แก่ ดนตรี ศิลปะหัตกรรม สุขศึกษา และสังคมศึกษาส่วนวิชาวิทยาศาสตร์และเริ่มเรียนตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 เป็นต้นไป ทุกคนที่เรียนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จะต้องทำข้อสอบ Primary School Leaving Examination (PSLE) ให้ผ่าน เพื่อจบการศึกษาระดับประถม
ระดับมัธยมศึกษา (Secondary School)
โรงเรียนมัธยมในสิงคโปร์มีหลายรูปแบบ ทั้งให้ทุนทั้งหมดโดยรัฐบาล หรือเพียงส่วนเดียว หรือนักเรียนเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดนักเรียนในแผนการเรียนพิเศษ (Special and Express) จะใช้เวลาเรียนเพียง 4 ปี ขณะที่นักเรียนในแผนการเรียนปกติ (Normal) จะใช้เวลาเรียน 5 ปี โดยนักเรียนในแผนการเรียนพิเศษจะสอบ Singapore Cambridge General Certificate of Education “Ordinary” (GCE “O” Level) เมื่อเรียนครบ 4 ปี ส่วนนักเรียนหลักสูตรปกติใช้เวลาเรียน 5 ปีนั้น จะสอบ Singapore Cambridge General Certificate of Education “Normal” (GCE “N” Level) ในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 นักเรียนสามารถเลือกได้ว่าจะเรียนทางสายศิลป์ วิทยาศาสตร์ ธุรกิจการค้า หรือสายวิชาชีพ
นักเรียนที่เรียนโรงเรียนนานาชาติสอบวัดระดับแบบ IGCSE ก็สามารถเข้าสอบต่อในระดับเตรียมอุดมศึกษาของรัฐบาลสิงคโปร์ได้
เมื่อจบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาแล้ว ผู้ที่สนใจเรียนสายวิชาชีพเทคนิค หรืออาชีวศึกษา ก็สามารถแยกไปเรียนตามสถาบันต่างๆ ได้ ส่วนผู้ที่จะเรียนต่อในมหาวิทยาลัยก็จะเข้าศึกษาต่อใน Junior College อีก 2 ปี เมื่อจบแล้วจะต้องสอบ GCE “A” Level เพื่อนำผลคะแนนไปตัดสินการเข้าเรียนต่อระดับมหาวิทยาลัย ผู้ที่เข้ามหาวิทยาลัยไม่ได้ก็อาจศึกษาในสายอาชีพ หรือหางานทำต่อไป
ภาคเรียนแบ่งเป็น 4 เทอม ระหว่างเทอมจะปิดให้นักศึกษาพักดังนี้ มกราคม – มีนาคม เรียน 10 สัปดาห์พัก 1 สัปดาห์ มีนาคม – มิถุนายน เรียน 10 สัปดาห์พัก 4 สัปดาห์ กรกฎาคม – กันยายน เรียน 10 สัปดาห์พัก 1 สัปดาห์ กันยายน – ธันวาคม เรียน 10 สัปดาห์พัก 6 สัปดาห์ โดยทั่วไปนักศึกษาจะเริ่มเรียน 07.20 น. ถึง 3.00 น.
ระดับเตรียมอุดมศึกษา (Junior College)
เมื่อนักเรียนสอบ GCE “O” Level ผ่านได้แล้ว นักเรียนสามารถสมัครเข้าศึกษาต่อในระดับจูเนียร์ คอลเลจ เป็นเวลา 2 ปี หรือศึกษาที่สถาบันการศึกษา (Centralised Institute) เป็นเวลา 3 ปี เพื่อเตรียมศึกษาต่อระดับมหาวิทยาลัยจูเนียร์ คอลเลจ และสถาบันกลางการศึกษาจะสอนทุกอย่างเพื่อเตรียมความพร้อมให้นักเรียนเข้าศึกษาในระดับมหาวิทยาลัยได้ หลักสูตรหลักแบ่งเป็น 2 หลักสูตร คือ วิชาความรู้ทั่วไป (General Paper) และภาษาแม่ เมื่อเรียนจบจูเนียร์ คอลเลจ นักเรียนจะต้องสอบประกาศนียบัตรการศึกษาสิงคโปร์-แคมบริดจ์ ระดับทั่วไป (Singapore-Cambridge General Certificate of Education “Advanced” : GCE “A” Level) โดยเลือกวิชาสอบสูงสุดได้ 4 วิชา จากวิชาในหมวดศิลปะ วิทยาศาสตร์ และธุรกิจการค้า
สำหรับน้องๆที่เตรียมตัวจะไปเรียนต่อที่สิงคโปร์ อาจจะเคยได้ยินมาบ้างว่า สิงคโปร์นั้นแบ่งการเรียนมัธยมเป็น 2 stages ด้วยกัน นั่นคือ เป็นกาเรียนเรียนระดับมัธยม (secondary) 4 ปี ตอนจบ secondary 4 ต้องสอบ O-level แล้วหลังจากนั้น บางคนก็เลือกไปเรียนระดับเตรียมมหาวิทยาลัย (Junior College) หรือจะไปเรียนสายวิชาชีพ ( Polytechnic) ต่ออีก 2-3 ปี
ซึ่งขั้นตอนการยื่นคะแนนเพื่อเข้า Junior College หรือ Polytechnic นั้น ก็จะแตกต่างกันและมีหลักเกณฑ์คะแนนบังคับนิดหน่อยค่ะ แต่เนื่องจากสิงคโปร์นิยมใช้ตัวย่อในการเรียกของต่างๆ ดังนั้น วันนี้ เราจะมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับการยื่นคะแนนเพื่อเรียนต่อ Junior College กันค่ะ โดยน่าจะเป็นประโยชน์กับทั้งน้องๆที่เรียนในระบบ O-level และ IGCSE ด้วยนะคะ
ระดับมหาวิทยาลัย (University)
มหาวิทยาลัยชื่อดังในสิงคโปร์มี 3-4 แห่ง คือ
- National University of Singapore (NUS)
- Nanyang Technological University (NTU)
- National Institute of Education (NIE)
- Singapore Management University (SMU)
- Singapore Institute of Management (SIM)

National University of Singapore (NUS) คือมหาวิทยาลัยแรกและเก่าแก่ ที่สุดของประเทศสิงคโปร์ จะให้การศึกษาครอบคลุมเกือบทุกสาขาวิชา ทั้งแพทยศาสตร์ ทันตแพทย์ กฎหมาย ศิลปะศาสตร์ วิทยาศาสตร์ วิศวกรรม สถาปัตยกรรม และการบริหารธุรกิจ
Nanyang Technological University (NTU) คือมหาวิทยาลัยที่เปิดในปีค.ศ. 1991 ซึ่งดั้งเดิมคือ
Nanyang Technological Institute (NTI) เปิดเมื่อปีค.ศ. 1981 จะเน้นการศึกษาด้านวิศวกรรมศาสตร์สาขาต่างๆ รวมทั้งวิทยาศาสตร์ประยุกต์ และสาขาธุรกิจ และการบัญชี
Singapore Management University (SMU) คือมหาวิทยาลัยเปิดด้วยการ ลงทุนและสนับสนุนจากรัฐบาล จะเน้นเรื่องธุรกิจการจัดการ
National Institute of Education (NIE) เป็นส่วนหนึ่งของมหาวิทยาลัย (NTU) หลักสูตร 4 ปีเน้นการสอนเพื่อจะเป็นอาจารย์ มหาวิทยาลัยนานาชาติ
SIM (Singapore Institute of Management) จัดหลักสูตรต่าง ๆ โดยได้ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเปิดของอังกฤษ เปิดสอนปริญญาตรีด้านศิลปศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และคอมพิวเตอร์ การรับสมัครเป็นการจำกัดรับ และ United Kingdom Open University เป็นผู้ประสาทปริญญาบัตร
นอกจากมหาวิยาลัยของสิงคโปร์เองแล้ว ยังมีมหาวิทยาลัยระดับโลกให้ เลือกศึกษา ตัวอย่างเช่น
สุดยอด MBA จากยุโรปอย่าง INSEAD ที่ลงทุนถึง 60 ล้านสิงคโปร์ดอลลาร์ในการสร้างวิทยาเขตเต็มรูปแบบแห่งแรกในเอเชีย และศูนย์กลางวิทยาศาสตร์ในปี2543 University of Chicago Graduate School of Business ได้เลือกที่จะตั้งวิทยาเขตในสิงคโปร์นับเป็นครั้งแรกที่มีมหาวิทยาลัยจาก อเมริกามาตั้งวิทยาเขตเป็นการถาวรในเอเชีย Business
ได้เลือกที่จะตั้งวิทยาเขตในสิงคโปร์นับเป็นครั้งแรกที่มีมหาวิทยาลัยจาก อเมริกามาตั้งวิทยาเขตเป็นการถาวรในเอเชีย
นอกจากนี้มหาวิทยาลัยอื่นๆที่ร่วมมือกับสถาบันการศึกษาของสิงคโปร์อีก ได้แก่ Wharton School of the University of Pennsylvania สถาบัน MIT (Massachusetts Institute of Technology ) และ Techische Universitiet Eindhoven เป็นต้น
Singapore’s Grading System
ที่สิงคโปร์นั้น จะมีการให้ตัวเลขพร้อมไปกับเกรดที่ได้ด้วยค่ะ โดยยิ่งเกรดดีเท่าไหร่ ตัวเลขก็ยิ่งน้อยเท่านั้น อย่างตามตารางด้านล่างนี้ จะเห็นว่าถ้าน้องๆ ทำคะแนนวิชาไหนได้มากกว่า 75% ขึ้นไป จะถือว่าเป็นเกรดที่ดีที่สุดคือ A1 นั่นเองค่ะ แต่ถ้าอยู่ระหว่าง 70-74% ก็ยังได้ A อยู่นะคะแต่เป็น A2 ค่ะ
ซึ่งตัวเลขที่ติดมากับเกรดนี้มาผลอย่างมาก กับการยื่นเข้า Junior College ค่ะ
มีผลยังไงน่ะเหรอคะ มาอ่านต่อกันเลยค่ะ
Application for Junior College
อย่างที่เห็นในตารางแล้วว่า ยิ่งคะแนนดีเท่าไหร่ ตัวเลขเกรดก็ยิ่งน้อยเท่านั้น เพราะฉะนั้นเด็กๆที่จะ qualified หรือมีคุณสมบัติพอยื่นคะแนนเข้า Junior College ได้นั้น จะต้องมีผลรวม L1R5 รวมกันไม่เกิน 20 คะแนนค่ะ
เริ่มจะมึนๆ แล้วใช่มั้ยคะ L1R5 คืออะไร 20 คะแนนอะไร มาค่ะ อธิบายต่อนะคะ
L1R5 ก็คือ วิชาภาษาแบบ first language 1 ตัว (L1) ปกติก็มักจะเป็นวิชาภาษาอังกฤษนี่แหละค่ะ และ Relevant subjects หรือวิชาอื่นๆที่เกี่ยวข้องอีก 5 ตัว (R5) รวมทั้งสิ้นใช้คะแนนยื่นจาก 6 วิชา โดยให้ผลรวมของตัวเลขเกรด รวมกันแล้วไม่เกิน 20 คะแนน เช่น เด็กคนนึงอาจจะได้แนน จาก L1R5 ตามนี้ A1, B3,B4, A2, C5,A2 ผลรวมของตัวเลขเกรดคือ 1+3+4+2+5+2 = 17 คะแนน น้องคนนี้จะยื่นเข้า Junior College ได้ เพราะคะแนนรวมไม่เกิน 20 ค่ะ
ทั้งนี้ทั้งนั้นตัว R5 นี้ จะเลือกวิชาที่ดีที่สุดมามั่วๆ ไม่ได้นะคะ เพราะอย่างน้อยๆ ต้องมี Math 1 ตัว Science 1 ตัว และ Humanities 1 ตัวค่ะ และควรจะสัมพันธ์กับวิชาที่เราคิดว่าจะไปเลือกเรียนต่อในระกับ Junior College เพื่อไปเข้ามหาวิทยาลัยในสาขาที่ต้องการในที่สุดด้วยค่ะ
The lower scores, the BETTER chance!
พอเราเข้าใจแล้วว่าผลรวมคะแนนมาจากอะไร ก็จะเห็นว่าคะแนนที่น่าจะดีที่สุดสำหรับ L1R5 ก็คือ 6 คะแนนนั่นเอง ซึ่งหมายถึงทำคะแนนได้ A1 ทุกวิชาเลย แต่ๆๆๆๆ คะแนนยังสามารถลดลงได้อีกด้วยนะคะ ! นั่นก็เพราะว่า เค้าจะมี bonus point ให้สำหรับน้องคนไหนที่ทำกิจกรรมชมรม (CCA) แล้วได้เกรดดีๆ หรือสอบวิชาภาษาแม่ระดับสูง ( Higher Mother tongue) หรือมาจากโรงเรียนที่เป็นพันธมิตรกับ Junior College นั้นๆ ถ้ามีคุณสมบัติตามนี้เพิ่ม ก็อาจจะลดลงไปได้จนเหลือ 3-4 คะแนนได้เลยค่ะ สุดยอด!! แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น คะแนนพิเศษพวกนี้ ก็ต้องได้มาจากความพยายามและตั้งใจทั้งสิ้น เพราะอย่าง Higher Mother Tongue Language นั้นได้ข่าวว่ายากมากกกกเลยค่ะ
พอจะเห็นภาพแล้วหรือยังคะ ว่าถ้าเราผ่านขั้นตอน AEIS หรือได้รับทุนเข้าไปเรียนที่สิงคโปร์แล้ว เราจะต้องวางแผนการเรียนของเรายังไง การวางแผนนี่แหละ จะทำให้เราไม่เรียนอย่างสะเปะสะปะ และมี focus ให้กับตัวเองค่ะ
คราวหน้า จะมาลงเรื่องเกณฑ์การเข้า Polytechnic นะคะ แม้จะบอกว่าเป็นสายวิชาชีพ แต่พบว่ามีเด็กๆ ที่คะแนน O-levels ดีพอจะเข้า Junior College หลายคน เลือกที่จะไปทาง Polytechnic เพราะเห็นประโยชน์บางอย่างจากการเรียนทางด้านนี้เหมือนกันค่ะ
Contact ED FOCUS
Address
95/1-2 Sripoovanart Rd., Hat Yai, Hat Yai, Songkhla 90110
Phone
(+66) 095 954 4424
edfocusthailand@gmail.com
Opening Hours
Mon-Fri: 10AM - 8PM
Sat-Sun: 9AM - 12PM
(By appointment)
Copyright © ED FOCUS